ชาริล ชับปุยส์ เกิดวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2535 ที่เมืองโคลเทิน (Kloten) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบุตรคนเดียวของแดเนียล ชัปปุยส์ ชาวสวิส และไพลิน ชัปปุยส์ ชาวไทย มีส่วนสูง 177 เซนติเมตร ชาริลเริ่มต้นหัดเล่นฟุตบอลกับบิดาแต่เด็ก จนมีโอกาสเริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนให้กับสโมสรโคลเทินที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี พ.ศ. 2542 จากนั้น 1 ปี ก็ย้ายมาอยู่เอสซี ยังเฟลโลวส์ยูเวนตุส (SC Young Fellows Juventus)[2][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] ต่อมาใน พ.ศ. 2546 ชาริล ชัปปุยส์ย้ายมาอยู่ทีมชุดเยาวชนของสโมสรกราสฮอปเปอร์ ซูริก ในสวิสซูเปอร์ลีก
การเล่นฟุตบอลอาชีพ
กราสฮอปเปอร์ ซูริก
ในขณะเป็นนักเตะชุดเยาวชนของกราสฮอปเปอร์ ซูริก ชาริล ชัปปุยส์ ได้มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมกราสฮอปเปอร์ 2 ซึ่งเป็นทีมสำรองที่ลงแข่งในระดับลีกาคลาสสิก หรือดิวิชัน 4 ของสวิตเซอร์แลนด์ ในฤดูกาล 2552-2553 โดยในฤดูกาลนั้นชาริลเคยมีชื่อเป็นตัวสำรองของทีมกราสฮอปเปอร์ ซูริกชุดใหญ่หลายนัดในการแข่งขันระดับซุปเปอร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุด แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม
ปีต่อมาชาริล ชัปปุยส์ถูกส่งมาเล่นให้กับทีมสำรองในระดับดิวิชั่น 4 อีกครั้งในฤดูกาล 2553-2554 อย่างไรก็ตามชาริล ชัปปุยส์ มีโอกาสลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของกราสฮอปเปอร์ 1 นัด ในฟุตบอลถ้วยสวิส คัพ รอบแรก เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553 ในนัดที่ไปเยือนสโมสร แบร์โรช กอร์กีเย
โลการ์โน
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ชาริลย้ายไปเล่นให้กับสโมสรโลการ์โน ในระดับแชลเลนจ์ ลีก หรือดิวิชั่น 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยสัญญายืมตัว ภายใต้การคุมทีมของดาวิเด โมรันดี และลงสนามให้โลการ์โน นัดแรกในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ในแชลเลนจ์ลีกที่ต้องออกไปเยือนสโมสรโวห์เลน ที่สนามนีเดอร์แมทเทน โดยชาริลถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้าย
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ชาริล ชัปปุยส์ ยิงประตูแรกในลีกให้กับโลการ์โนได้ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรเอฟซี วิล 2-1 ที่สนามแบร์กฮอลซ์ เมื่อจบฤดูกาล สโมรโลการ์โนได้อันดับที่ 9 โดยชาริล ชัปปุยส์ลงสนาม 28 นัด (ในแชลเลนจ์ลีก 26 นัด สวิสคัพ 2 นัด) ยิงในลีก 2 ประตู
เอฟซี ลูกาโน
ฤดูกาล 2555-2556 ชาริล ชัปปุยส์ ย้ายทีมในรูปแบบยืมตัวอีกครั้ง โดยย้ายมาร่วมทีมเอฟซี ลูกาโน ในแชลเลนจ์ลีก 5 เดือน โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของไรมอนโด ปอนเต
ชาริลลงสนามนัดแรกให้เอฟซี ลูกาโนในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 โดยเปิดบ้านชนะเอฟซี วิล 3-1 ที่สนามคอร์นาเรโด และเป็นกำลังสำคัญในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก โดยเมื่อหมดสัญญายืมตัวในเดือนธันวาคม จึงเดินทางกลับสโมสรกราสฮอปเปอร์ ตลอดการยืมตัวชาริลสนามให้เอฟซี ลูกาโน 17 นัด (ในแชลเลนจ์ลีก 16 นัด สวิสคัพ 1 นัด)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ชาริล ชัปปุยส์ ย้ายมาเล่นฟุตบอลในประเทศไทยกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม ด้วยสัญญา 2 ปี และลงสนามให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนัดแรกเป็นตัวจริงเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ที่พบกับบริสเบน โรอา (ประเทศออสเตรเลีย) ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม
ต่อมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ชาริล ชับปุยส์ลงเล่นรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานเป็นครั้งแรก ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก. 2556 หรือ โค้ก แชริตี้ คัพ 2013 ที่พบกับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย โดยที่บุรีรัมย์เอาชนะไปได้ 2-0 และคว้าแชมป์ถ้วย ก.ไปครอง
การลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของชาริล ชัปปุยส์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 ในนัดที่บุรีรัมย์ฯ เปิดสนามนิวไอโมบาย สเตเดี้ยม พบกับสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี นัดนั้น เขาปั่นลูกเตะมุมโค้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม[8]
ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 ชาริล ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าจากเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับสโมสรเจียงซู เสิ่นตี้ (ประเทศจีน) โดยชาริล ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-0 ชาริลวิ่งแสดงความดีใจไปบริเวณมุมธงพร้อมกระโดดแบบสุดตัว แต่จังหวะลงขาขวาที่รับน้ำหนักกลับเสียหลักจนหัวเข่าบิดอย่างน่าหวาดเสียว ทำให้ไม่สามารถเล่นต่อได้ และต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ 3 เดือน เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 7 กรกฎาคม ในไทยพรีเมียร์ลีก เลก 2 ที่ต้องออกไปเยือนสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง
จบฤดูกาล บุรีรัมย์ฯ คว้าแชมป์ เขาสนามในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้รวม 16 นัด ยิงในลีก 2 ประตู
สุพรรณบุรี เอฟซี
ในไทยพรีเมียร์ลีก 2557 ชาริล ชัปปุยส์ไม่ได้รับประกันตำแหน่งตัวจริงและเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซียืมตัวไป ภายใต้การคุมทีมของเวลิซาร์ เอมิลอฟ โปปอฟ โค้ชชาวบัลแกเรีย เพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ โดยชาริลได้เสื้อหมายเลข 40
ชาริล ชัปปุยส์ลงเล่นให้สุพรรณบุรี เอฟซีนัดแรกวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่พบกับสโมสรบีอีซี เทโรศาสน[11] และมาทำประตูแรกให้กับสุพรรณบุรี เอฟซี ได้จากลูกโหม่ง ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่พบสโมสรฟุตบอลสิงห์ท่าเรือ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี
การเล่นที่สุพรรณบุรี เอฟซี ชาริลทำผลงานได้อย่างดีจนสามารถยึดตำแหน่งในแดนกลาง และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โค้ชทีมชาติไทย เรียกเขาติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ไปแข่งขันในเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งไทยได้อันดับสี่
จบฤดูกาล สโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 ในตารางคะแนนไทยพรีเมียร์ลีก 2557 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของสโมสร และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยไทยคม เอฟเอคัพ ได้เป็นครั้งแรก โดยชาริลได้เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีมสุพรรณบุรี เอฟซีอย่างถาวรเมื่อจบฤดูกาล
ทีมชาติ
สวิตเซอร์แลนด์
ในระดับทีมชาติ ชาริล ชัปปุยส์ เริ่มเข้าทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย ได้ในปี พ.ศ. 2552 โดยเขามีส่วนช่วยทีมครบทุกนัดในการแข่งขันรายการระดับโลก ด้วยผลงานยอดเยี่ยมดังกล่าวจึงทำให้ชาริลเคยตกเป็นข่าวกับสโมสรฟุตบอลระดับโลกทั้งฮัมบูร์กและยูเวนตุสทีเดียว
ทีมชาติไทย
ชาริล ชัปปุยส์ เคยถูกเรียกเข้าร่วมทีมชาติไทย โดยวินฟรีด เชฟเฟอร์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเพื่อเข้าร่วมศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2015 แต่เนื่องจากเขาเคยเล่นให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีมาก่อน จึงต้องให้ฟีฟ่าพิจารณาการเปลี่ยนสัญชาติ ซึ่งไม่ทันกับการแข่งขันในครั้งนั้น จึงยังไม่ได้ร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทย
หลังจากที่ฟีฟ่ารับรองให้ ชาริล ชัปปุยส์ เป็นนักเตะทีมชาติไทยเต็มตัว เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทยในขณะนั้น ก็เรียกให้ชาริลเข้าร่วมทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งเขาได้ลงเล่นครั้งแรกในนามทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อครั้งที่ต้อนรับการมาเยือนของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในเดือนสิงหาคม ก่อนที่จะเปิดตัวในนามทีมชาติอย่างเป็นทางการในนัดที่พบกับทีมชาติยูกันดา เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2556 และได้รับใช้ทีมชาติอีกครั้งในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า
เกียรติประวัติ
ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
- แชมป์ฟุตบอลโลก U17: 2009
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. (1) : 2013
- ไทยพรีเมียร์ลีก (1) : 2013
ทีมชาติไทย
- แชมป์ซีเกมส์ 2013 ชุด U23
- เอเชียนเกมส์ 2014 อันดับ 4
- แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น